วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

จับหนุ่มบ้ากามอ้างตัวเป็นฤๅษีล่อลวงเด็กสาววัย14 ไปกระทำชำเรา



จับหนุ่มหื่นอ้างเป็นฤๅษีลวงเด็กหญิงอายุ14 ไปข่มขืน

  รายงานข่าวแจ้งว่า บ่ายวานนี้ (5มี.ค.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ จังหวัดระยอง จับกุมตัวนายสุรสิทธิ์ นพกูลวงษ์อายุ 27 ปี ชาว จ.จันทบุรี ตามหมายเรียกเลขที่ จ.125/2556 ที่ร้านสักยันต์ ตำหนักบรมครูปู่ฤๅษีเดินดง จังหวัดระยอง

  การจับดังกล่าวต่อเนื่องมากจากเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มารดาของน.ส.โบว์ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เข้าแจ้งเหตุว่า ลูกสาวถูกนายสุรสิทธิ์ ลวงพาลูกสาวและเพื่อนนักเรียนนั่งรถเก๋งรับอาสาพาไปส่งบ้าน แต่เปลี่ยนพาลูกสาวไปที่ร้านสักยันต์คนรักพ่อแก่ ห้องเช่า ตำบลแกลง เมื่อไปถึงก็ได้ให้นั่งรอภายในห้องไม่ช้านายสุรสิทธิ์ที่อวดอ้างเป็นคนสักยันต์และคนทรง ก็ได้ใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เมื่อทราบเรื่องจากลูกสาวจึงพามาแจ้งความโดยทันที

  ทั้งนี้ ผู้ต้องหายอมรับขืนใจเด็กหญิงคนดังกล่าว รวม 2 ครั้งและลงมือทำร้ายร่างกายจริงเจ้าพนักงานจึงตั้งข้อหา กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยา โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารโดยบุคคลนั้นไม่ยินยอม

ที่มา:sanook.com

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชาวเน็ตจีนตกใจสาวข่มขืนผู้ชายข้างถนน



ชาวเน็ตประเทศจีนอึ้งผู้หญิงขืนใจชายหนุ่มข้างถนน

  สาวรูปร่างดีแต่งกายดีก่อเหตุกระทำชำเราหนุ่มริมถนน ท่ามกลางสายตาของผู้คน ชาวเน็ตประเทศจีนแนะชายหนุ่มควรไปตรวจเลือด

  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า (5 มี.ค.) ที่โลกอินเตอร์เน็ตของจีนมีการโพสต์รูปภาพจากวิดิโอคลิปที่อ้างว่า ได้เห็นสตรีคนหนึ่ง บนถนนจิ่วหยันเชียว ซึ่งมีหน้าตาและผิวพรรณดีและแต่งกายดี แต่อยู่ในกิริยาท่าทางมึนเมาเหล้า กำลังใช้ความโหดเหี้ยมดันชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินผ่านมาจนล้มลง และเปลื้องเสื้อยกทรงของตนเองขึ้นไปบนตัวของชายคนดังกล่าว ซึ่งในตอนแรกพยายามขัดขืนไม่ให้ฉุดกระชากกางเกง แต่ก็จำนนต่อแรงอาละวาด จนสำเร็จลุล่วงธุระหญิงสาวคนดังกล่าวก็ใส่กระโปรงและก้าวเดินหนีไป ทิ้งชายหนุ่มผู้ทำกันได้แค่สวมกางเกงและหลีกเลี่ยงไปในเงามืด ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่มองดูมาแต่ไม่กล้าเข้าไปช่วย

  ทั้งนี้ ชาวเน็ตจีนที่ได้เห็นรูปภาพดังกล่าว ต่างพากันเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนชายหนุ่มเคราะห์ร้ายรายนี้ว่า ควรไปตรวจเลือดไว้ก่อน เพราะไม่มีใคร ทราบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และก่อเรื่องเช่นนี้ทำไม

ที่มา:sanook.com

โอ๊ค พานทองแท้ เย้ย คุณชายชนะเลือกตั้งเพราะคนกรุงเทพฯขี้กลัว



โอ๊ค พานทองแท้ เย้ย ม.ล.สุขุมพันธุ์มีชัยเพราะคนกทม.กลัว

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความfacebook Oak Panthongtae Shinawatra ว่า

  กราบขอบพระคุณทุกคะแนนที่มีให้กับเบอร์ 9 ครับ พวกผมทั้งหมดทำดีที่สุดแล้วครับ ทั้งตัวผู้สมัครฯเอง แรงเชียร์จากผู้ส่งเสริมฝ่ายต่างๆ ผมเชื่อมั่นว่า คนกทม.อยากได้กรุงเทพฯรูปแบบใหม่ แต่ฝืนใจต้องลงคะแนนเสียงคนเดิมเพราะความกลัว และผมไม่เชื่อว่า คนกรุงเทพฯ จะติดอกติดใจงานของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ ถึงขนาดหาแต้มเพิ่มได้จาก 800,000 เป็น1,200,000ครับ

  ในภาพรวมของทั้งประเทศไทย ผมว่าก็ งดงามเหมือนกันครับ เพราะราว2ปี จะมีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรณ์กันอีกครั้ง พรรค ประชาธิปัตย์ซึ่งเอาชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯในคราวนี้ จะต้องแสดงความมุ่งหมาย ที่จะมุ่งหน้าเป็นฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าปชป.เสนอตัวเองเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ จะเป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะ พรรคประชาธิปัตย์พูดไว้ว่า การที่ผู้ว่าฯกับนายกฯอยู่พรรคฯเดียวกันนั้น เป็นการ ผูกขาด ประเทศไทย

  รอดูกันว่าในการเลือกตั้ง สส. ครั้งต่อไป หากปชป. เกิดอยากเป็นรัฐบาลขึ้นมา จะ รีทัช-ตัดต่อ คำปราศรัยของตัวเอง ที่หลอกลวง กินเปล่า คะแนนจากคนกทม.ในคราวนี้ ว่าอย่างไรครับ

ที่มา:sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พระพุทธรูปสาวนั่งคร่อมที่แท้เป็นลัทธิตันตระ



พระพุทธรูปหญิงนั่งคร่อม จริงๆ แล้วเป็นนิกายตันตระ

  (1 มี.ค.) นักท่องโลกอินเตอร์เน็ตวิพากษ์วิจารณ์เกรียว พระพุทธรูปปางสมาธิ หญิงเปลื้องผ้านั่งคร่อม อันที่จริงเป็นปางหนึ่งในลัทธิตันตระ เป็นสัญลักษณ์แทนเพื่อถึงทางคำสั่งสอน

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีภาพพระพุทธรูปคล้ายอิริยาบถสมาธิ ประทับอยู่บนแท่นกลีบบัว แต่มีรูปปั้นหญิงสาวแก้ผ้านั่งคร่อมบนตักในท่ากอดรัด ขาทั้งสองข้างประสานส่วนเอวของพระพุทธรูป แขนรัดเกี่ยวกอดรัดลำคอ หันหน้าชนกันกับพระพุทธรูป ซึ่งเป็นที่วิจารณ์ในโลกinternet ล่าสุดค้นพบรายละเอียดว่าเป็นพระพุทธรูปที่คงอยู่จริง ตามความเลื่อมใสลัทธิหนึ่งในทิเบต

  จากการพิจารณาสืบหาข้อมูลเห็นว่า พระพุทธรูปที่กล่าวมานั้นเป็นอิริยาบถหนึ่งของลัทธิตันตระยาน ซึ่งลัทธิพุทธที่ได้รับอิทธิพลจากฮินดู มักมีการสร้างรูปปั้นหรือพระพุทธรูป ลักษณะแปลกประหลาด อิงจารีตวรรณกรรมและปรัชญาทางพระศาสนา เป็นลัทธิที่แพร่หลายในประเทศอินเดีย เนปาล และทิเบต หรือคำศัพท์ภาษาชาวบ้านเรียก ยับยุม (Yab-Yum)

  ถึงกระนั้นก็ตาม สำหรับพระพุทธรูปปางดังที่กล่าวมา พบว่ามีแชร์รูปถ่ายประเภทนี้ในโลกอินเตอร์เน็ตอยู่บ่อยและมีการวิจารณ์ในหมู่พุทธศาสนิกชน ซึ่งส่วนมากจะไม่ทราบว่ามีลัทธิและพระพุทธรูปประเภทนี้อยู่จริง

ที่มา:sanook.com

ตีแผ่clip กลุ่มวัยโจ๋โหดเหี้ยม ไล่แทงเหยื่อ ปล้นรถจักรยานยนต์



เผยclipแก๊งวัยโจ๋โหด ไล่แทงผู้เคราะห์ร้าย แย่งรถมอเตอร์ไซค์

  จากกรณีที่มีข่าวกลุ่มวัยรุ่นเหี้ยมโหด ใช้มอเตอร์ไซค์จำนวน 4 คัน ไล่ตามประกบ นายบัณฑิต หนูหนุน อายุ 17 ปีนักเรียน ปวช.และเพื่อน

  ก่อนที่หนึ่งในแก๊งผู้ร้ายจะใช้มีดจ้วง จนเป็นเหตุให้ นายบัณฑิต เสียชีวิต ก่อนที่จะขโมยรถจักรยานยนต์เผ่นหนีไป โดยเหตุมีขึ้นข้างตลาดสุชาติ ซอยรังสิต-ปทุมธานี 29 นั้น

  ล่าสุดได้มีร่องรอยจาก ภาพวงจรปิด 2 จุด ในบริเวณปั๊มน้ำมันซึ่งแก๊งดังกล่าวใช้เลือกเหยื่อ และหน้าร้านสะดวกซื้อที่ใช้ลงมือไล่แทงจนเหยื่อถึงแก่ชีวิต 1 ราย เจ็บอีก 1 คน

  ทั้งนี้ ตำรวจจะได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 2 จุด ไปสืบสวนและเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ที่มา:mthai.com

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แวดวงพระสงฆ์ฉาวอีก! หลังภาพพระสงฆ์ยิงปืนในงานวัดถูกแชร์ว่อนเน็ต



แวดวงพระเสื่อมอีกแล้วหลังรูปพระสงฆ์ยิงปืนในงานวัดถูกแชร์ทั่วเน็ต

  เป็นเรื่องราวเป็นเหตุให้ก่อเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาซ้ำในแวดวงสงฆ์ เมื่อมีการเผยแพร่ภาพที่ไม่สมควรของพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งกำลังเหนี่ยวไกปืนอัดลมด้านในงานวัด ผ่านเฟซบุ๊ก โดยรูปดังกล่าวมีใจความระบุ “อาตมาเป็นมือปืนใหม่ กำลังซ้อมยิงนะโยม”

  เมื่อประชาชนเห็นแล้วเข้าไปตักเตือน ปรากฏว่า ภิกขุรูปดังกล่าวแสดงทีท่าไม่พอใจ จนชาวบ้านได้เข้าบอก พระชั้นผู้ใหญ่ ที่มาร่วมในงานได้มาไล่ให้เลิกและว่ากล่าวตักเตือน

  ทั้งนี้เมื่อรูปดังกล่าวได้เผยแพร่ ออกไป ได้มีการวิจารณ์กันมากในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ตว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะ และเรียกร้องให้มีการจัดการกับพระสงฆ์รูปดังกล่าว และตามที่ทราบภิกษุรูปดังกล่าวไม่ใช่พระลูกวัด แต่เป็นพระที่เดินทางมาจาก กรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะทำบุญทอดผ้าป่าปลูกสร้างกำแพงพระอุโบสถ ที่ทางวัดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีจากเหตุที่เกิดขึ้นตนได้รายงานให้เจ้าคณะอำเภอทราบแล้วเช่นกัน

ที่มา:mthai.com

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ชาวอินเตอร์เน็ตโวย คำสั่งใหม่คนจับปลาต้องขึ้นบัญชีชาวประมง



เกิดเป็นกระแสฮือฮาเกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อผู้ใช้ชื่อว่า @ทรงวุฒิ_พัฒแก้ว ได้โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หยิบยกการวิเคราะห์ร่างข้อบัญญัติประมงในสภาผู้แทนราษฎร ที่เตรียมจะออกกฎระเบียบให้คนที่จะจับสัตว์น้ำต้องลงทะเบียนชาวประมง หากไม่ทำตามถือว่าผิดกฎหมายคดีอาญา และถูกจับปรับโทษเป็นเงินไม่เกิน 5,000บาท โดยกะเกณฑ์ว่า

  วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ คุณวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี แจ้งว่า

  ใครเป็นคนจับปลา เป็นคนหาปลา ฟังทางนี้ครับ…เอาไม่อยู่แล้วครับ 1. ตราบเท่าที่ชาวบ้านมุ่งหมายจะจับปลา และไม่ทำผิดกติกาหรือระเบียบปฏิบัติที่วางไว้ ปรากฏว่าในร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่มีความเพียรพยายามผลักดันแนวนโยบายใหม่ ทั้งกรมประมง และคณะกรรมาธิการเสียงจำนวนมาก โดยกล่าวอ้างหลักการว่า ต้องการรู้ว่าผู้ประกอบการค้าประมงมีจำนวนเท่าไหร่ ที่ไหน แต่เมื่อถึงเวลา กลับไปเพิ่มนิยามศัพท์ “ผู้ประกอบการประมง” ขึ้นมาใหม่ เขาจึงให้คำนิยามว่า ผู้ประกอบการประมง หมายถึง “บุคคล คณะบุคคล และนิติบุคคล ซึ่งมีงานการเป็นผู้ประกอบการประมงปกติ

  2. ผลักดันให้ผู้ที่จะทำการจับสัตว์น้ำ ต้องมาลงชื่อเป็นชาวประมง โดยอ้างว่าเป็นการจัดเก็บสถิติการประมง แถมตัวยกร่างตอนแรกยังกำหนดโทษทางอาญาแก่ผู้ที่ทำการประมงโดยไม่ได้แจ้งไว้ด้วย (ปรับไม่เกินห้าพันบาท) แปลความว่าหลังจากนี้ ประชาชนทุกคนก็หมดสิทธิในการทำประมงไปโดยทั้งมวล

ที่มา: news.mthai.com